เทคนิคที่ใช้
    • การสลักดุน และลงยาสีเย็น
ขั้นตอนการสร้างสรรค์
    1. ร่างออกแบบลวดลายเครื่องประดับตามที่ต้องการ
    2. เตรียมเม็ดโลหะเงินแท้เพื่อหลอมในเบ้าหลอมด้วยความร้อนสูง
    3. นำเงินที่ได้จากการหลอมมารีดให้เป็นแผ่นเพื่อสลักดุนลายตามแบบที่ร่างไว้ โดยสลักดุนพลิกกลับไปมาถึง 3-4 รอบ เพื่อให้ได้ลวดลายที่คมชัดและอ่อนช้อย
    4. จากนั้นนำแผ่นเงินมาฉลุลายแล้วนำไปเชื่อมประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
    5. หลังจากเสร็จสิ้นการเชื่อมประกอบแล้ว ให้นำไปขัดแต่งเพื่อลบเหลี่ยมคมให้สวยงาม
    6. นำชิ้นงานที่ผ่านการชุบทองแล้วมาประดับเข้ากับอัญมณี และตกแต่งลงยาสีเย็น พร้อมประดับห้อยด้วยไข่มุกตามแบบที่ร่างไว้

•  ใบเสมา ถือเป็นงานศิลปกรรมที่มีคุณค่าเชิงพุทธศิลป์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงคตินิยมในทางพุทธศาสนา ด้วยรูปลักษณ์คล้ายกลีบบัวซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่น ช่างในสมัยโบราณจึงนิยมนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับ อาจใช้เป็นกรอบสำหรับพระเครื่อง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้สวมใส่นึกถึงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า

• ใบเสมา หรือ สีมา เป็นภาษาบาลี มีความหมายว่า “เขตแดน” ในทางศาสนาพุทธใช้ในการกำหนดเขตสังฆกรรม หรือเขตชุมนุมของสงฆ์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่กำหนดความพร้อมเพรียงของสงฆ์ในการทำสังฆกรรมร่วมกัน อาทิ การสวดปาฏิโมกข์ ซึ่งใบเสมา สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
    1. พัทธสีมา แปลว่า แดนที่ผูก ได้แก่เขตที่พระสงฆ์กำหนดขึ้นเอง
    2. อพัทธสีมา แปลว่า แดนที่ไม่ได้ผูก ได้แก่เขตที่ทางราชการกำหนดไว้ หรือเขตที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และสงฆ์ถือเอาตามเขตนั้นเป็นเครี่องกำหนด ไม่ได้มีการทำหรือผูกขึ้นใหม่

• เสมาในพบในประเทศไทยที่เก่าที่สุด อาจสืบย้อนกลับไปได้ตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 14 – 16 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก มีการสลักเรื่องราวพุทธประวัติบนหินทราย พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เช่น ใบเสมาพิมพาพิลาป

•  ธรรมลีลา. 2550. ใบเสมาโบราณของไทย. ผู้จัดการออนไลน์. https://mgronline.com/dhamma/detail/9500000132062 (สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2564).