การแกะสลักไม้แบบลอยตัว หรือแบบ 3 มิติ คือการนำไม้ทั้งชิ้นมาแกะให้เห็นรูปรอบด้าน ซึ่งจะมีความยากของเนื้อไม้และการวางสัดส่วนต่างๆ ให้มีความพอดี จึงถือเป็นงานที่ใช้ทักษะเชิงช่างชั้นสูงในการสร้างสรรค์จนได้ชิ้นงานที่มีความงดงามและลงตัว

ขั้นตอนและวิธีการทำ :

1. เลือกท่อนไม้ที่มีขนาด และความหนาที่ต้องการ จากเศษไม้เหลือทิ้ง หรือที่ยืนต้นตาย
2. ร่างแบบรูปพระพุทธชินราชบนกระดาษ และนำมาติดที่ท่อนไม้
3. ตัดไม้ให้ได้ตามรูปทรงในแบบร่าง
4. แกะสลักตามโครงสร้างโดยรวมก่อน แล้วค่อยแกะรายละเอียด
5. ขัดเรียบ
6. ทาสีเคลือบเงา

• ราชรถ หมายถึง พาหนะแห่งพระมหากษัตริย์ ในสมัยโบราณน่าจะพัฒนามาจากเกวียนขนาดเล็กที่นั่งได้เพียงคนเดียว และเทียมด้วยม้าหรือสัตว์อื่น เช่น วัว ลา ล่อ หรือแม้แต่คนในสมัยโบราณการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ จะใช้พาหนะในรูปแบบต่าง ๆ ตามฐานะของผู้ใช้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว พาหนะนั้น ๆ จะเป็นเครื่องหมายแสดงตำแหน่งทางราชการของผู้เป็นเจ้าของ ราชรถมีทั้งที่เทียมด้วยม้าและลากด้วยกำลังคน ซึ่งราชรถที่เทียมด้วยม้ามักเป็นรถศึก และรถที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้เมื่อเสด็จประพาสในที่ต่าง ๆ นอกพระราชวัง สำหรับราชรถที่ลากด้วยคนนั้นจะมีขนาดใหญ่ และใช้ในการพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีพระบรมศพ
• งานแกะสลักด้วยมือ  มักจะมีเรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ดังนั้นการเลือกไม้ที่จะนำมาแกะสลักเป็นรูปร่างต่างๆ หรือความเชื่อทางศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ความศรัทธา หรือตามวรรณคดีไทย วรรณกรรมต่างๆ ล้วนเกิดจากจิตรกรรมก่อน แล้วค่อยมาเป็นการแกะสลักภาพบนไม้ซึ่งก็มีความงดงาม อ่อนช้อย เสมือนอยู่บนภาพพิมพ์ แต่เกิดมิติตื้นลึก  ช่างแกะสลักมักเลือกไม้ที่ค่อนข้างจะมีอายุการใช้งานที่นานหลายร้อยปี และมีความหมาย
• ต้นโมก ถือเป็นหนึ่งในไม้มงคลที่มักจะนำมาแกะสลัก ซึ่งมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์เพราะโมกหรือโมกขหมายถึงผู้ที่หลุดพ้นด้วยทุกข์ทั้งปวง สำหรับส่วนของดอกก็มีลักษณะ สีขาว สะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดวัน  นอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองปกป้องภัยอันตราย เพราะต้นโมกบางคนเรียกว่าต้นพุทธรักษา ดังนั้นเชื่อว่าต้นโมกสามารถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งปวงจากภายนอกได้เช่นกัน และยังเชื่ออีกว่าส่วนของเปลือกต้นโมกสามารถใช้ป้องกันอิทธิฤทธิ์ของพิษสัตว์ต่างๆ ได้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย

การแกะสลักไม้ เป็นงานหัตถศิลป์ที่ยังมีให้พบเห็นได้ทั่วไป แต่ที่จะงามประณีตละเอียดละออดุจดังผลงานของบรรพศิลปินที่เป็นมรดกของชาตินั้นหาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะงานแกะสลักไม้ในบัจจุบันที่ต้องทำแข่งกับเวลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริที่จะบำรุงรักษาวิชานี้ไว้ในฐานะสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ มิใช่กิจการผลิตหัตถศิลป์ที่ทำด้วยไม้ ซึ่งจะต้องใช้ไม้อันเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปริมาณมากจนเกินไป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หาช่างฝืมือชั้นครูมาสอนถ่ายทอดวิชาแก่สมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อให้มีโอกาสเรียนรู้ที่จะสร้างผลงานอันประณีตและทรงคุณค่าสมกับไม้ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ควรจะต้องนำมาใช้อย่างรอบคอบและเหมาะสม ไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป