ผ้าปะลางิงลายนกยูงเป็นลายผ้าที่ครูปิยะสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นผ้าสำหรับแขวนประดับ โดยได้รับแรงบันใดการสร้างสรรค์ลายนกยูงมาจากการทรงงานสร้างลายผ้าบาติกของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพี่อเป็นผ้าคอลเลคชั่นพิเศษของศรียะลาบาติก และสร้างสีสันจากสีย้อมธรรมชาติของพรรณไม้และทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อสะท้อนความภาคภูมิใจในทุนทางวัฒนธรรมของเมืองยะลา
เทคนิคที่ใช้ : เทคนิคการทอยกดอกแบบเหยียบตะกอ และการสร้างมิติสีสันบนผืนผ้าด้วยการเขียนเทียน และการใช้เทคนิคเย็บย้อม
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :
1. การคัดเลือกผ้า : ผ้าที่ใช้สำหรับทำผ้าปะลางิงมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการในการสร้างลวดลายและเนื้อสัมผัสบนผืนผ้า ซึ่งโดยทั่วไปมี 4 รูปแบบคือ
2. การเตรียมผ้า : นำผ้าที่เตรียมไว้มาแช่น้ำรองย้อม (น้ำรองย้อมคือ การใช้คุณสมบัติตามธรรมชาติของพืชที่พบในท้องถิ่นเช่น เปลือกกล้วยหิน ใบหูกวาง ใบฝรั่ง มาทำเป็นน้ำรองย้อมที่ช่วยให้สีติดดียิ่งขึ้น) โดยนำผ้าที่แช่ไว้มาบีบ นวด ให้น้ำซึมเข้าไปในเส้นใยของผืนผ้า แช่ไว้ประมาณ 30 นาที แล้วนำไปตากให้หมาด
3. การสร้างลายบนผื้นผ้า : กำหนดช่องลาย โทนสีและรูปแบบลวดลายและโครงสร้างผ้าตามที่ออกแบบไว้ และนำมาสร้างสรรค์ลวดลายเพื่อให้มีมิติสีและความหลากหลายตามเอกลักษณ์ของผ้าปะลาลิงคือความพริ้วไหว และมีสีสันงดงามราวกับสีรุ้ง
ซึ่งผ้าปะลางิงลายนกยูงมีการสร้างลายถึง 4 เทคนิคด้วยกันคือ
4. การลงสีรายละเอียดที่สำคัญ : หลังจากสร้างลวดลายด้วยการเขียนเทียนเรียบร้อยแล้ว ครูปิยะนำสีย้อมธรรมชาติจากใบมังคุดที่เตรียมไว้ซึ่งมีสีโทนน้ำตาลเหลือบส้ม - เหลือง มาลงสีด้วยพู่กันหรือแปรงขนาดเล็กบริเวณส่วนตัวของนกยูง และส่วนลายประกอบที่เป็นหางนกยูง
5. ย้อมสีธรรมชาติ :
การย้อมสีธรรมชาติครั้งที่ 1 : นำใบยอมาเตรียมเป็นสีย้อมธรรมชาติจนได้สีเทาเฉดที่ต้องการ จากนั้นนำผ้าไปแช่ในน้ำย้อมประมาณ 1 – 2 วัน เพื่อให้สีซึมเข้มไปเนื้อผ้า โดยจุดคงจุดที่สร้างลายด้วยการเย็บย้อมไว้เพื่อกั้นสีตามต้องการ
การย้อมสีธรรมชาติครั้งที่ 2 : เตรียมโคลนกอบัวที่มีเนื้อเนียนละเอียดและมีสีเทาเข้มด้วยการนำไปกรองเศษตะกอนต่างๆ ออกจนหมด แล้วนำผ้าที่ผ่านการย้อมด้วยใบยอแล้วมาบีบและนวดในน้ำโคลนกอบัว จากนั้นแช่ไว้ประมาณ 1 คีน จะได้สีของผืนผ้าตามต้องการและด้วยคุณสมบัติของโคลน ยังช่วยให้ผ้ามีลักษณะอ่อนนุ่ม ทิ้งตัวสวยงามอีกด้วย
6. การต้มละลายน้ำเทียน : หลังจากได้สีตามต้องการแล้ว ก่อนนำไปต้มน้ำเทียนให้นำผ้าไปล้างหรือผ่านน้ำสะอาดประมาณ 1 – 2 น้ำ เพื่อสังเกตการซึมของสีในเนื้อผ้า จากนั้นจึงนำไปต้มในน้ำร้อนที่ผสมด้วยผงซักฟอกเล็กน้อย (เพื่อทำความสะอาดและช่วยฟิกซ์สีไม่ให้สีตก) ซึ่งเทียนจะค่อยๆ ละลายออกจากเนื้อผ้า โดยขี้ผึ้งที่ได้จากการต้มลอกออกจากผืนผ้าเมื่อทิ้งไว้ให้เย็นจนกลายเป็นแผ่นขี้ผึ้ง สามารถนำมาใช้ในการทำน้ำเทียนสำหรับการพิมพ์บล็อกไม้และการเขียนเทียนในครั้งต่อๆ ไป หลังจากนั้นจึงนำผ้าไปแช่และล้างในน้ำเย็น ก่อนนำไปผึ่งให้แห้งและรีดให้เรียบเพื่อพร้อมต่อการใช้งาน