สร้อยคอลายหนอนผีเสื้อ

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

สร้อยคอลายหนอนผีเสื้อ เป็นเครื่องประดับเซรามิกที่วาดลวดลายเลียนแบบธรรมชาติของจังหวัดลำปาง คือ ตัวหนอนผีเสื้อโดยวาดลายเส้นตัวหนอน แล้วลงสีออกเขียวเหลือง ให้เหมือนกันตัวหนอนของจริง เป็นการสร้างสรรค์รูปทรงที่แปลกใหม่จากความคิดที่สร้างสรรค์ ผสมผสานกับเทคนิค “งานเซรามิกสีใต้เคลือบ” ผิวเซรามิกเรียบเนียนคงทน และผลงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องดิน
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
สร้อยรวมจี้ 42 ซม.
วัสดุ :
ดินขาว
อายุ/ปีที่ผลิต :
2564
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : การลงสีใต้เคลือบ
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :

  1. การเตรียมวัตถุดิบ วัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์เซรามิก ได้แก่ แร่ดินชนิดต่าง ๆ เช่น ดินเหนียว ดินขาว ดินสโตนแวร์ และส่วนผสมต่าง ๆ นำมาเข้าสู่ระบบการบดและขนาดของอนุภาค ต่อจากนั้นจึงนำน้ำดินไปรีดน้ำออก หรือกรองอัดน้ำดิน เพื่อให้ได้ดินนำไปขึ้นรูปต่อไป
    ดินขาว คือ ดินเกาลิน (Kaolin) เช่น ดินขาวระนอง ดินขาวลำปาง เป็นต้น ดินชนิดนี้มีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูง เมื่อเผาที่อุณหภูมิประมาณ 1,200 องศาเซลเซียส จะมีสีขาว แต่ไม่ค่อยเหนียว ดังนั้นจึงต้องมีการผสมดินเหนียวลงไป เพื่อช่วยในการขึ้นรูป
  2. การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์
    นำดินขาว มารีดแล้วกดลงในแม่พิมพ์แบบ จากนั้นปาดเนื้อดินให้เรียบเนียน
  3. การลงสี
    นำดินดิบมาวาดสีใต้เคลือบสีสำเร็จรูป (underglaze) ใช้ในงานตกแต่งหรือระบายสีบนบิสกิต ซึ่งเป็นดินที่ผ่านการเผาแล้วแต่ยังไม่ได้เคลือบสี กลุ่มนี้มีความละเอียดสูง ทำให้ระบายสีได้ง่ายและแห้งตัวเร็ว ใช้สีทาบนเนื้อดินดิบ ก่อนนำไปเข้าเตาเผา
  4. การเผา
    การเผาผลิตภัณฑ์เซรามิกครั้งแรกเรียกว่า เผาดิบ โดยเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาให้สูงขึ้นอย่างช้า ๆ อุณหภูมิ 1200 องศา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คงรูป ไม่แตกชำรุด ผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ผ่านการเผาดิบแล้วบางชนิดนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องเคลือบ เช่น กระถางต้นไม้ อิฐ ไส้เครื่องกรองน้ำแต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะต้องเคลือบผิวเพื่อให้เกิดความสวยงาม มีความคงทนและป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนบนผิว
  5. การเคลือบ
    การเคลือบ คือ ชั้นของแก้วบาง ๆ ที่หลอมละลายติดอยู่กับผิวดินซึ่งขึ้นรูปเป็นภาชนะทรงต่าง ๆ สารที่ใช้เคลือบผลิตภัณฑ์ เซรามิกเรียกว่า “น้ำเคลือบ” ซึ่งเป็นสารผสมระหว่างซิลิเกตกับสารช่วยหลอมละลาย วัตถุดิบที่เป็นน้ำยาเคลือบจะถูกบดจนละเอียดมากกว่าดินหลายเท่า ก่อนนำมาเคลือบบนดินเผาเป็นชั้น มีความหนาขนาด 1-1.5 มม. เมื่อเคลือบแล้วต้องทิ้งให้ผลิตภัณฑ์แห้ง เช็ดฐานของผลิตภัณฑ์ให้สะอาดก่อนเข้าเตาเผา ผลิตภัณฑ์ที่เคลือบแล้ว โดนเผาผ่านความร้อนอุณหภูมิสูง วัตถุดิบที่เป็นแก้วในเคลือบเมื่อถึงจุดหลอมละลาย ชั้นของเคลือบจะกลายเป็นแก้วมันวาวติดอยู่กับผิวดิน การเคลือบช่วยให้การล้างภาชนะสะดวก เนื่องจากเคลือบมีสมบัติลื่นมือ สามารถทำความสะอาดง่ายกว่าผิวดินที่มีลักษณะค่อนข้างหยาบ สารเคลือบมีคุณสมบัติเป็นแก้วไม่ดูดซึมน้ำ และยังเพิ่มความแข็งแรงทนทาน ทำให้ภาชนะดินเผา ไม่บิ่นง่ายเมื่อกระทบกันบ่อย ๆ ขณะล้างทำความสะอาด
ข้อมูลแหล่งที่มา