ต่างหูตะเกาเงินก้านโบราณ

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานวัตศิลป์ไทย

ต่างหูตะเกาเงินก้านโบราณ  เป็นต่างหูที่ทำขึ้นจากโลหะเงิน 92.5% นำมาหลอม รีดและดัดเป็นต่างหูรูปแบบโบราณที่ครูสมศักดิ์ได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิมนับแต่บรรพบุรุษเอาไว้ แต่นำมาปรับให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ในปัจจุบัน โดยนำเอาความก้านต่างหูแบบโบราณที่มีความสวยงามโดดเด่น คือมีลักษณะโค้งงอ หนา แข็ง และก้านใหญ่ มาปรับให้เป็นก้านดอกตะเกา และเสริมส่วนที่เป็นก้านต่างหูให้เป็นลวดขนาดเล็ก ทำให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้น ตัวต่างหูเป็นดอกตะเกาลายดอกรังหอก ซึ่งเป็นลายโบราณ เมื่อนำมารวมกันแล้วทำให้ต่างหูมีความสวยงามร่วมสมัยและดูแปลกตามากขึ้น ดอกรังหอก ที่มีความหมายว่าเป็นดอกไม้แห่งมิตรภาพ การใช้เครื่องประดับลายดอกรังหอก หมายถึงการเสริมพลังบวก ด้านการรับไมตรีจากผู้อื่น มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม

รูปแบบของก้านต่างหูแบบโบราณซึ่งมีทั้งก้านใหญ่ และ ก้านห้อย จะมีลักษณะโค้งงอ หนา และแข็ง เป็นก้านต่างหูที่ถูกคิดค้นขึ้นกว่า 100 ปีมาแล้ว และได้มีการออกแบบให้เข้ากับใบหูของคนในสมัยนั้นให้สามารถสวมใส่ได้ ในการทำจะต้อง ใช้ค้อนตีตั้งแต่ปลายลวดจนสุดโคน และนำมาดัดโค้งด้วยเขาควาย จากนั้นจึงขัดด้วยกระดาษทรายเพื่อให้ก้านต่างหูเรียบเนียน ซึ่งก้านต่างหูแบบโบราณนี้ใช้เวลาทำเฉลี่ยข้างละ 3 ชั่วโมง


ตะเกา เป็นภาษาเขมร ใช้เรียกต่างหู  เป็นเครื่องประดับที่ทำจากทองหรือเงิน ทำลวดลายเลียนแบบดอกไม้ ด้วยวิธีการขึ้นรูปด้วยการดัดเส้นลวดไปมาให้มีระยะห่างเท่า ๆ กันจนได้รูปทรง แล้วนำมาเชื่อมต่อกันเรียงวนรอบเป็นชั้น ๆ เหมือนองค์ประกอบของดอกไม้ คือ มีกลีบดอก และเกสร
ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องโลหะ
กลุ่มวัฒนธรรม :
ขอมโบราณ
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
ยาว 4 เซนติเมตร (ดอกตะเกา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร)
วัสดุ :
1. โลหะเงิน 2. น้ำยาประสานเงิน 3. น้ำมันเบนซิน 4. น้ำกรดเจือจาง 5. น้ำแช่ลูกปะคำดีควายหรือแช่น้ำยาล้างจาน
อายุ/ปีที่ผลิต :
2558
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : การหลอม รีด ขด ดัด เชื่อม และแกะลาย โลหะเงิน
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :

  1. การออกแบบชิ้นงาน โดยกำหนดรูปทรงชิ้นงานที่ต้องการจะทำ  สำหรับชิ้นงานนี้ต้องการทำต่างหูตะเกาเงินลายดอกรังหอก
  2. การหลอมโลหะเงิน  ชั่งน้ำหนักก้อนเงินตามต้องการ แล้วนำไปหลอมในเบ้าหลอมจนก้อนเงินละลาย แล้วนำไปเทใส่เบ้าจานหรือรางเทเงินจะได้เป็นแท่งเงิน ทิ้งไว้ให้เย็น
  3. การรีดแท่งเงิน นำแท่งเงินมารีดเป็นแผ่น หรือดึงให้เป็นเส้นลวด จนได้ขนาดที่เหมาะสมสำหรับนำไปดัดเป็นลวดลายต่าง ๆ
  4. การขึ้นรูป ในขั้นตอนนี้จะใช้การเหยียบเครื่องสูบลมพ่นไฟหัวเชื่อม เพื่อช่วยให้เงินอ่อนตัวสามารถดัด ขึ้นรูป และเชื่อมติดได้โดยใช้น้ำยาประสานเงิน
    ในการเชื่อมเงินให้ติดกัน โดยแต่ละส่วนมีขั้นตอนการทำดังนี้
    1) ส่วนของตัวต่างหู (ตะเกาลายดอกรังหอก)
    - ทำตะเกาชิ้นล่างก่อน โดยนำลวดเงินที่รีดเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการแล้วมาดัดงอเป็นกลีบดอกให้มีลักษณะเหมือนปากฉลามโดยใช้คีมและใช้มือช่วยดัด ดัดไปมาให้ได้ 26 กลีบ จากนั้นนำลวดมาเชื่อมเข้าหากันเป็นวงกลมจะได้เป็นตััวดอกตะเกา มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2  เซนติเมตร จัดแต่งรูปทรงลวดให้สวยงามมีระยะห่างเท่า ๆ กัน
    - ใช้แผ่นเงินตอกโดยใช้เหล็กตัดตู่ให้ได้แผ่นเงินวงกลม เพื่อเชื่อมปิดรูตรงกลางของตัวดอกตะเกาชิ้นล่าง ใช้ไฟเบาเชื่อมให้แผ่นเงินกับตะเกาติดกัน
    - นำดอกตะเกาชิ้นล่างไปขึ้นรูปให้นูน โดยนำตะเกาไปใส่ลงบล๊อคสำหรับขึ้นรูปเป็นรูปวงกลม แล้วใช้เหล็กตอกลงไป เพื่อให้ตะเกามีลักษณะโค้งนูน
    - ทำตะเกาชิ้นบนโดยใช้กรรมวิธีเดียวกับตะเกาชิ้นลาง โดยทำให้มีขนาดเล็กกว่าแผ่นชิ้นเล็กน้อย
    - นำตะเกาชิ้นบนมาวางซ้อนกับตะเกาชิ้นล่างแล้วเชื่อมให้ติดัน
    - นำลวดเส้นเล็กมาม้วนเป็นเกลียว โดยม้วนเป็นเกลียวซ้ายและเกลียวขวาอย่างละเส้น แล้วดัดลวดทั้งสองเส้นให้เป็นวงกลมให้มีขนาดเล็กกว่าตะเกาชิ้นล่าง 1-2 มิลลิเมตร นำไปวางบนดอกตะเกาชิ้นบน เชื่อมให้ติดกัน
    - ทำดอกพริกโดยการใช้ลวดขนาดเล็กม้วนเป็นวงตัวหนอน วางรอบวงกลมชิ้นบนให้ได้ 9 ดอก เชื่อมให้ดอกพริกติดกัน
    - ม้วนลวดให้เป็นวงกลมล้อมดอกพริกไว้ด้านบน แล้วเชื่อมให้ติดกัน
    - ทำก้นหอย โดยนำเส้นลวดมาเผาให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองเหลือง พันวนเป็นวงไปเรื่อยๆ จนเป็นตัวหนอน นำออกจากลวดทองเหลือง แล้วเชื่อมปลายให้ติดกันเป็นวง  แล้วนำก้นหอยเชื่อมติดกับลวดวงกลมในชั้นถัดไป
    - ทำก้นหอย และเชื่อมลวดวงกลมอีก 1 ชุด ในชั้นถัดไป
    - ติดไข่ปลาที่ปลายตะเกาชิ้นล่างทั้ง 26 กลีบ โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดเล็ก 3 เม็ด เผาเชื่อมติดกันแล้วตีให้แบน
    - ติดไข่ปลาที่ดอกพริก โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดใหญ่กว่า เผาตีให้แบน นำไปติดบนดอกพริกทั้ง 9 ดอก
    - ติดไข่ปลาที่ยอดเกสร โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดเล็ก 5 เม็ด เผาเชื่อมติดเป็นวง แล้วติดไข่ปลาอีก 1 เม็ดบนยอดด้านบน
    2) ส่วนของก้านดอก
    -  นำแท่งเงินมารีดเป็นเส้นกลมยาวประมาณ 5 เซ็นติเมตร
    -  ใช้ค้อนตีตั้งแต่ปลายลวดจนสุดโคน และนำมาดัดโค้งด้วยเขาควาย
    -  ขัดด้วยกระดาษทรายเพื่อให้ก้านเนียนเรียบ
    3) ส่วนของก้านต่างหู
    -  ตัดลวดทองยาวประมาณ 3 เซ็นติเมตร แล้วดัดโค้ง
  5. การประกอบชิ้นงาน โดยเชื่อมก้านดอก และก้านต่างหู ที่ส่วนก้นของดอกตะเกา
  6. การทำความสะอาดชิ้นงาน
  1. นำชิ้นงานไปเผาเพื่อให้สนิมหลุดออก โดยใช้ไฟพ่นชิ้นงาน เมื่อเงินถูกความร้อนจะเป็นสีขาวนวลโดยธรรมชาติ
    2)  นำชิ้นส่วนงานแช่ในน้ำกรดผสมน้ำเปล่าเพื่อฟอกและกัดเครื่องประดับเงินให้มีสีขาว
    3)  นำชิ้นส่วนงานแช่ในน้ำแช่ลูกปะคำดีควายหรือแช่น้ำยาล้างจาน แล้วขัดด้วยแปรงขัดให้เกิดความมันวาว
    4)  นำไปเช็ดและเป่าให้แห้ง

* **ดอกพริก** คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นวงลวดตัวหนอน ทำด้วยการเผาลวดเงินให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองเหลืองขนาดเล็ก พันวนเป็นวงไปเรื่อย ๆ แล้วนำออกจากเส้นลวดทองเหลือง นำมาพันรอบกล้าทองเหลืองขนาดใหญ่กว่าอีกครั้งจะได้เป็น “ตัวหนอน”  แล้วตัดตัวหนอนออกเป็นวง เชื่อมติดปลายให้แน่น แต่ละวงเรียกว่า “ดอกพริก
* **ก้นหอย** คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นวงลวดตัวหนอนคล้ายกับดอกพริก แต่ใหญ่กว่า โดยนำเงินไปรีดเป็นเส้นลวดแล้วนำมาติดเป็นเส้นรอบวงกั้นไว้ก่อน  นำเส้นลวดอีกเส้นมาเผาให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองทองเหลือง พันวนเป็นวงไปเรื่อยๆ จนเป็นตัวหนอน นำออกจากเส้นลวดทองเหลือง นำไปติดเชื่อมให้ความยาวพอดีกับเส้นรอบวงที่ 1 ที่วางกั้นไว้แล้ว ทำเช่นกันนี้ติดเรียงเป็นชั้น ๆ ตามที่ต้องการ * **ไข่ปลา** คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นเม็ดเงินกลม ใทำโดยใช้ลวดขนาดเล็กพันรอบลวดทองเหลืองขนาดที่ต้องการแล้วตัดลวดเป็นวง ใช้ไฟเป่าให้หลอมเป็นลูกกลม ไม้ที่รองทำไข่ปลาจะเอาไม้ไผ่มาบากให้เรียบแล้วเป่าด้วยไฟ ให้ข้างบนที่เรียบไหม้เป็นเหมือนถ่าน แล้ววางลวดที่เป็นวง เป่าให้หลอมบนนั้น คุณสมบัติของไม้ไผ่จะมีใยยึดเม็ดเงินกลมไม่ให้วิ่งไปติดกัน เวลาหลอมเป็นลูกกลม
ข้อมูลแหล่งที่มา