ต่างหูตะเกาทองลายดอกรังหอก

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

ต่างหูตะเกาทองลายดอกรังหอก เป็นงานต่างหูโบราณที่ครูสมศักดิ์ได้สืบทอดไว้จนเป็นเอกลักษณ์ ตัวต่างหูเป็นดอกตะเกาลายดอกรังหอก ทำด้วยทองคำ 96.5 % ส่วนตัวก้านต่างหูทำด้วยทองคำเนื้ออ่อนกว่า คือ 90 % มีน้ำหนักรวม 12 กรัม ดอกรังหอก ที่มีความหมายว่าเป็นดอกไม้แห่งมิตรภาพ การใช้เครื่องประดับลายดอกรังหอก หมายถึงการเสริมพลังบวก ด้านการรับไมตรีจากผู้อื่น มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม

ตะเกา เป็นภาษาเขมร ใช้เรียกต่างหู  เป็นเครื่องประดับที่ทำจากทองหรือเงิน ทำลวดลายเลียนแบบดอกไม้ ด้วยวิธีการขึ้นรูปด้วยการดัดเส้นลวดไปมาให้มีระยะห่างเท่า ๆ กันจนได้รูปทรง แล้วนำมาเชื่อมต่อกันเรียงวนรอบเป็นชั้น ๆ เหมือนองค์ประกอบของดอกไม้ คือ มีกลีบดอก และเกสร

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องโลหะ
กลุ่มวัฒนธรรม :
ขอมโบราณ
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
ดอกตะเกา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ข้อต่างหู สูง 1.5 เซนติเมตร ก้านต่างหู สูง 2 เซนติเมตร
วัสดุ :
1. โลหะทองคำ 2. น้ำยาประสานทอง 3. น้ำมันเบนซิน 4. น้ำกรดเจือจาง 5. น้ำแช่ลูกปะคำดีควายหรือแช่น้ำยาล้างจาน
อายุ/ปีที่ผลิต :
2561
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : การหลอม รีด ขด ดัด เชื่อม และแกะลาย โลหะทอง
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :

  1. การออกแบบชิ้นงาน โดยกำหนดรูปทรงชิ้นงานที่ต้องการจะทำ  สำหรับชิ้นงานนี้ต้องการทำต่างหูตะเกาทองลายดอกรังหอก
  2. การหลอมโลหะทองคำ ชั่งน้ำหนักก้อนทองคำตามต้องการ แล้วนำไปหลอมในเบ้าหลอมจนก้อนทองคำละลาย แล้วนำไปเทใส่เบ้าจานหรือรางเท จะได้เป็นแท่งทอง ทิ้งไว้ให้เย็น
  3. การรีดแท่งทอง นำแท่งทองมารีดเป็นแผ่น หรือดึงให้เป็นเส้นลวด จนได้ขนาดที่เหมาะสมสำหรับนำไปดัดเป็นลวดลายต่าง ๆ
  4. การขึ้นรูป ในขั้นตอนนี้จะใช้การเหยียบเครื่องสูบลมพ่นไฟหัวเชื่อม เพื่อช่วยให้ทองอ่อนตัวสามารถดัด ขึ้นรูป และเชื่อมติดได้โดยใช้น้ำยาประสานทอง
    ในการเชื่อมเงินให้ติดกัน โดยแต่ละส่วนมีขั้นตอนการทำดังนี้
    1) ส่วนของต่างหู  (ตะเกาลายดอกรังหอก)
    - นำลวดทองที่รีดเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการแล้วมาดัดงอเป็นกลีบดอกให้มีลักษณะเหมือนปากฉลาม โดยใช้คีมและใช้มือช่วยดัด ดัดไปมาให้ได้ 24 กลีบ จากนั้นนำลวดมาเชื่อมเข้าหากันเป็นวงกลมจะได้เป็นตััวดอกตะเกา มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร จัดแต่งรูปทรงลวดให้สวยงามมีระยะห่างเท่า ๆ กัน
    - นำแผ่นทองอีกแผ่นตอกโดยใช้เหล็กตัดตู่ให้ได้แผ่นทองวงกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่าขนาดของดอกเล็กน้อย เพื่อเชื่อมปิดรูตรงกลางของตัวดอกตะเกาด้านล่าง ใช้ไฟเบาเชื่อมให้แผ่นทองกับตะเกาติดกัน
    - นำดอกตะเกาไปขึ้นรูปให้นูน โดยนำตะเกาไปใส่ลงบล๊อคสำหรับขึ้นรูปเป็นรูปวงกลม แล้วใช้เหล็กตอกลงไป เพื่อให้ตะเกามีลักษณะโค้งนูน
    - นำลวดเส้นเล็กมาม้วนเป็นเกลียว โดยม้วนเป็นเกลียวซ้ายและเกลียวขวาอย่างละเส้น แล้วดัดลวดทั้งสองเส้นให้เป็นวงกลมให้มีขนาดเล็กกว่าตะเกาชิ้นล่าง 1-2 มิลลิเมตร นำไปวางบนดอกตะเกาชิ้นบน เชื่อมให้ติดกัน
    - ทำดอกพริกโดยการใช้ลวดขนาดเล็กม้วนเป็นวงตัวหนอน วางรอบวงกลมชิ้นบนให้ได้ 9 ดอก เชื่อมให้ดอกพริกติดกัน
    - ม้วนลวดให้เป็นวงกลมล้อมดอกพริกไว้ด้านบน แล้วเชื่อมให้ติดกัน
    - ทำก้นหอย โดยนำเส้นลวดมาเผาให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองเหลือง พันวนเป็นวงไปเรื่อยๆ จนเป็นตัวหนอน นำออกจากลวดทองเหลือง แล้วเชื่อมปลายให้ติดกันเป็นวง  แล้วนำก้นหอยเชื่อมติดกับลวดวงกลมในชั้นถัดไป
    - ทำก้นหอย และเชื่อมลวดวงกลมอีก 1 ชุด ในชั้นถัดไป
    - ติดไข่ปลาที่ปลายตะเกาชิ้นล่างทั้ง 26 กลีบ โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดเล็ก 3 เม็ด เผาเชื่อมติดกันแล้วตีให้แบน
    - ติดไข่ปลาที่ดอกพริก โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดใหญ่กว่า เผาตีให้แบน นำไปติดบนดอกพริกทั้ง 9 ดอก
    - ติดไข่ปลาที่ยอดเกสร โดยนำเม็ดไข่ปลาขนาดเล็ก 5 เม็ด เผาเชื่อมติดเป็นวง แล้วติดไข่ปลาอีก 1 เม็ดบนยอดด้านบน
    2) ส่วนของข้อต่างหู  (จารลายกลีบบัว)
    - ตัดแผ่นทองยาวตามขนาดที่ต้องการ แล้วนำไปม้วนด้วยเลาไม้ไผ่เชื่อมต่อแผ่นทองให้เป็นทรงกระบอก
    - นำแผ่นทองทรงกระบอกสวมใส่แกนตะปูที่แท่นไม้  ใช้ค้อนที่หัวค้อนทำจากเขาควายตีเคาะขึ้นรูปให้เป็นข้อลักษณะเรียวสูง
    - ใช้เหล็กกดลายเป็นลายกลีบบัวโดยรอบ
    - ดัดลวดสองเส้นตีเกลียวเป็นเส้นเชื่อมต่อกันเป็นวง ติดเชื่อมที่ส่วนหัวขอข้อ 2 เส้น และส่วนท้ายของข้อ 3 เส้นสลับแนวกัน
    -  ดัดลวดเป็นวงเชื่อมติดส่วนหัวของข้อ
    3) ส่วนของก้านต่างหู
    -  ตัดลวดทองยาวประมาณ 5 เซ็นติเมตร แล้วดัดปลายลวดให้เป็นห่วงวงกลม
    - ตัดลวดทองเส้นเล็กพันกับลวดทองเหลืองให้เป็นตัวหนอนตรงยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร นำไปสอดใสลวดทองแส้นแรกให้ติดกับห่วงแล้วเชื่อมให้ติดกัน แล้วดัดปลายลวดอีกด้านให้โค้ง
  5. การประกอบชิ้นงาน โดยนำส่วนของต่างหูเชื่อมติดเข้ากับข้อของต่างหู แล้วนำหัวข้อข้อต่างหูคล้องเข้ากับห่วงของก้านต่างหูแล้วเชื่อมให้ติดกัน
  6. การทำความสะอาดและประกอบชิ้นงาน นำต่างหูแช่ในน้ำแช่ลูกปะคำดีควายหรือแช่น้ำยาล้างจาน แล้วขัดด้วยแปรงขัดให้เกิดความมันวาว เช็ดให้แห้ง

* **ดอกพริก** คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นวงลวดตัวหนอน ทำด้วยการเผาลวดเงินให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองเหลืองขนาดเล็ก พันวนเป็นวงไปเรื่อยๆ แล้วนำออกจากเส้นลวดทองเหลือง นำมาพันรอบกล้าทองเหลืองขนาดใหญ่กว่าอีกครั้งจะได้เป็น “ตัวหนอน”  แล้วตัดตัวหนอนออกเป็นวง เชื่อมติดปลายให้แน่น แต่ละวงเรียกว่า “ดอกพริก
* **ก้นหอย** คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นวงลวดตัวหนอนคล้ายกับดอกพริก แต่ใหญ่กว่า โดยนำเงินไปรีดเป็นเส้นลวดแล้วนำมาติดเป็นเส้นรอบวงกั้นไว้ก่อน  นำเส้นลวดอีกเส้นมาเผาให้อ่อนตัวนำไปพันกับเส้นลวดทองทองเหลือง พันวนเป็นวงไปเรื่อยๆ จนเป็นตัวหนอน นำออกจากเส้นลวดทองเหลือง นำไปติดเชื่อมให้ความยาวพอดีกับเส้นรอบวงที่ 1 ที่วางกั้นไว้แล้ว ทำเช่นกันนี้ติดเรียงเป็นชั้นๆ ตามที่ต้องการ
  • ไข่ปลา คือ รูปแบบของลายเครื่องเงิน มีลักษณะเป็นเม็ดเงินกลม ใทำโดยใช้ลวดขนาดเล็กพันรอบลวดทองเหลืองขนาดที่ต้องการแล้วตัดลวดเป็นวง ใช้ไฟเป่าให้หลอมเป็นลูกกลม ไม้ที่รองทำไข่ปลาจะเอาไม้ไผ่มาบากให้เรียบแล้วเป่าด้วยไฟ ให้ข้างบนที่เรียบไหม้เป็นเหมือนถ่าน แล้ววางลวดที่เป็นวง เป่าให้หลอมบนนั้น คุณสมบัติของไม้ไผ่จะมีใยยึดเม็ดเงินกลมไม่ให้วิ่งไปติดกัน เวลาหลอมเป็นลูกกลม
ข้อมูลแหล่งที่มา