ผ้าโฮลเปราะห์ลายบ้านเขวา

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

ผ้าโฮลเปราะห์ลายบ้านเขวา เป็นผ้าทอ 3 ตะกอ เหยียบและขึ้นลายมัดหมี่ 1 หัว ( 33 ลำ)  ย้อมด้วยสีสังเคราะห์ เชิงผ้าประกอบด้วยนลายโคม 7 มีเส้นขั้นเป็นสีเขียว ต่อด้วยลายตุ๊กตา ปลายผ้าด้านที่เริ่มต้นทอมี “เจือย” (ลายผ้าที่ทอก่อนการทอเข้าผืนจริง) ทอเปิดลายเป็นลายน้ำไหล อันเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของการทอผ้าของชาวสุรินทร์ ลายหลักเป็นลายโฮลผู้ชายโบราณ ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของจังหวัดสุรินทร์ เป็นผ้าที่ใช้สำหรับห่อบายสีในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
กลุ่มวัฒนธรรม :
ไทย-เขมร
ขนาด :
กว้าง 1 เมตร ยาว 4 เมตร
วัสดุ :
1. เส้นไหม 2. ผงด่างฟอกสี 3. สีเคมีย้อมผ้า 4. เกลือ 5. เชือกล้วย หรือ เชือกฟาง
อายุ/ปีที่ผลิต :
2537
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : ทอผ้ามัดหมี่  3  ตะกอ และย้อมสีสังเคราะห์
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :

  1. การออกแบบลวดลาย
    ครูเอือมนำลวดลายต้นแบบมาจากลายผ้าโบราณ โดยนำมาแกะลายแล้วเขียนลายลงบนตารางกราฟเพื่อนำไปเป็นแบบใช้ในขั้นตอนของการมัดหมี่
  2. การฟอกไหม
    เป็นการขจัดกาวไหม สิ่งสกปรกต่าง ๆ และสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ที่ติดมากับเส้นไหมออกก่อนการนำไปย้อม โดยการนำผงด่างล้างไหมมาละลายในน้ำร้อน ( ใช้ผงด่างล้างไหม 1 ซอง สำหรับเส้นไหม 1 กิโลกรัม ) แล้วนำเส้นไหมลงไปต้มประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ให้พลิกเส้นไหมไปมาเพื่อให้น้ำด่างเข้าไปล้างเส้นไหมได้อย่างทั่วถึง ไหมจะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีขาว จากนั้นนำมาล้างในน้ำสะอาดประมาณ 3 รอบ แล้วนำเส้นไหมมากระตุกเพื่อให้เส้นไหมเรียงตัว แล้วนำไปตากจนแห้งสนิท จะได้เส้นไหมที่นิ่ม และขาวขึ้น ทำให้ย้อมติดสีได้ดีขึ้นด้วย
  3. การย้อมไหมเส้นยืน
    เป็นการย้อมเส้นไหมด้วยสีดำจากสีสังเคราะห์ โดยสีดำสังเคราะห์ะลายในน้ำร้อน ( ใช้สีย้อมไหม 2 ซอง สำหรับเส้นไหม 1 กิโลกรัม ) แล้วนำเส้นไหมลงไปต้ม ใส่เกลือลงไปประมาณ 2 ช้อน ต้มนานประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ให้พลิกเส้นไหมไปมาเพื่อให้สีติดเส้นไหมอย่างทั่วถึง เมื่อครบกำหนดเวลา นำหม้อออกจากเตาตั้งทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นนำมาล้างในน้ำสะอาดประมาณ 3 รอบ แล้วนำเส้นไหมมากระตุกเพื่อให้เส้นไหมเรียงตัว แล้วนำไปตากจนแห้งสนิท
  4. การเตรียมไหมเส้นพุ่ง
    เป็นการนำเส้นไหมที่ฟอกแล้วมาแบ่งกลุ่มเพื่อเตรียมมัดลายก่อนนำไปย้อมด้วยการ “ค้นหมี่” คือการนำเส้นไหมมาวนรอบหลักค้นหมี่ไปทางซ้ายและทางขวา วนไปเรื่อยๆจนครบจำนวนเส้นไหมที่กำหนดแล้วจึงมัดรวมเส้นไหมให้เป็น 1 ลำ แล้วจึงพันเส้นไหมวนต่อไปในในลำที่ 2 ต่อเน่ืองกันไปจนครบ ซึ่งลายในผืนผ้าโฮลต้นแบบจะใช้ไหมเส้นพุ่งจำนวน 33 ลำ เรียกเป็น 1 หัว โดยเส้นพุ่งแต่ละลำจะแยกเป็นอิสระออกจากกันไม่ให้มีเส้นพุ่งของลำใดเชื่อมต่อกันเลย
  5. การมัดหมี่และย้อมไหมเส้นพุ่ง  : เป็นการสร้างลวดลายของเส้นไหมแต่ละลำตามการวางลายจากตารางกราฟที่ได้ออกแบบไว้ ด้วยการใช้วัสดุที่ไม่ดูดซึมสี เช่น เชือกกล้วย หรือเชือกฟาง มัดปิดลำไหมแต่ละลำเพื่อปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้สีย้อมซึมเข้าไปได้ แล้วจึงนำไปย้อมด้วยสีสังเคราะห์ โดยในแต่ละรอบของการย้อมให้นำสีสังเคราะห์มาลายในน้ำร้อน แล้วนำเส้นไหมลงไปต้ม ใส่เกลือลงไปประมาณ 2 ช้อน ต้มนานประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ให้พลิกเส้นไหมไปมาเพื่อให้สีติดเส้นไหมอย่างทั่วถึง เมื่อครบกำหนดเวลา นำหม้อออกจากเตาตั้งทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นนำมาล้างในน้ำสะอาดประมาณ 3 รอบ แล้วนำเส้นไหมไปตากจนแห้งสนิท  ซึ่งกระบวนการมัดและย้อมผ้าโฮลนั้นจะทำ 3 รอบ ทำให้เกิดสีที่เป็นสีหลัก ๆ ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีดำ โดยมีลำดับดังนี้
  1. “มัดหมี่”  โดยใช้เชือกกล้วยหรือเชือกฟางมัดปิดเส้นไหมในส่วนท่ีเป็นสีขาว หรือส่วนที่จะทำเป็นสีแดง และสีฟ้า เอาไว้
  2. นำเส้นไหมไปย้อมสีเหลือง แล้วนำไปล้างและผ่ึงลมให้แห้ง
  3. “โอบหมี่” (การมัดหมี่ครั้งที่สองเพื่อเก็บสีลายจากการมัดครั้งที่หนึ่งไว้หลังจากการมัด) ด้วยการใช้เชือกมัดปิดเส้นไหมส่วนที่จะทำเป็นสีเขียวและสีเหลืองที่ย้อมไปแล้วไว้ แล้วใช้มีดตัดปมเชือกส่วนที่จะทำเป็นแดงออก
  4. นำเส้นไหมไปย้อมสีแดง แล้วนำไปล้างและผ่ึงลมให้แห้ง
  5. “โอบหมี่” ด้วยการใช้เชือกปิดเส้นไหมส่วนสีแดงท่ีย้อมไปแล้วไว้  ใช้มีดตัดปมเชือกในส่วนที่จะทำเป็นสีเขียวและสีฟ้าออก
  6. นำเส้นไหมไปย้อมสีฟ้า แล้วนำไปล้างและผ่ึงลมให้แห้ง
  7. ใช้มีดตัดปมเชือกทั้งหมดออก นำไปล้างและผึ่งลมให้แห้งอีกครั้ง
  1. การบรรจุเส้นพุ่งเข้ากระสวย : เมื่อย้อมไหมเส้นพุ่งครบทั้ง 3 ครั้งแล้ว จะได้สีทั้งหมด 6 สี คือ สีขาวของไหมธรรมชาติ, สีเหลือง, สีแดง, สีเขียว, สีฟ้า และ สีม่วง (จากการย้อมแดงและฟ้า) นำเส้นไหมแต่ละลำกรอใส่กระสวย
  2. การเตรียมไหมเส้นยืนเข้าฟืม (ฟันหวี)
    นำเส้นไหมยืนที่ย้อมเป็นสีดำแล้ว ไปเดินเส้นยืนด้วยฟืมหรือฟันหวี ขนาด 60 หลบ เก็บตะกอแบบ 3 ตะกอ ดึงปลายไหมเส้นยืนทั้งหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ นำเข้ากี่ทอผ้า
  3. การทอผ้า
    วิธีการทอ คือการกดเครื่องแยกหมู่ตะกอเพื่อให้ไหมเส้นยืนถูกแยกออกและเกิดช่องว่างเพื่อสอดกระสวยไหมเส้นพุ่งผ่าน แล้วกระทบด้วยฟืม (ฟันหวี) เพื่อให้ไหมเส้นพุ่งแนบติดกัน ได้เนื้อผ้าที่แน่นหนา สลับตะกอสอดกระสวยไหมเส้นพุ่งกลับ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ


ข้อมูลแหล่งที่มา