ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ชิ้นงานต้นแบบ เป็น 1 ใน 4 ของศิลาทับหลังศิลปลพบุรีในประเทศไทย เป็นทับหลังประตูมุขโถงด้านตะวันออกตอนนอกของประสาทหินพนมรุ้ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นหินแกะรูปพระนารายณ์ 4 กร บรรทมตะแคงขวาอยู่เหนือหลังมังกร และมีพระยานาคหลายเศียรแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างองค์พระนารายณ์และมังกรอีกตัวหนึ่ง มีก้านบัวหลายก้านผุดขึ้นจากพระขนอง(หลัง)ของพระนารายณ์ พระพรหมประทับอยู่เหนือบัวบานก้านกลางพระนารายณ์ทรงถือ คฑา สังข์ และจักรไว้ในพระหัตถ์หน้าซ้าย พระหัตถ์หลังซ้ายและพระหัตถ์หลังด้านขวาตามลำดับ ส่วนพระหัตถ์หน้าขวารอบพระเศียรของพระองค์ ทรงมงกุฏรูปกรวยกภณฑล กรองศอ และทรงผ้าจีบเป็นริ้ว มีชายผ้ารูปหางปลาซ้อนกันอยู่ 2 ชั้นด้านหน้าคาดด้วยสายรัดพระองค์ มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับ มีพระลักษณมีชายาพระองค์ประทับนั้นอยู่ตรงปลายพระบาท คาดว่าสลักขึ้นหลังสมัยปราสาทนครวัดระหว่าง พ.ศ. 1675-1700
ชิ้นงานงานแกะสลักหินทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ของผู้สร้างสรรค์ ได้แรงบันดาลใจจากทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ของประสาทหินพนมรุ้ง ชิ้นงานแกะสลักหินแบบนูนสูงจากหินทรายขาวขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว โดยนำหินทรายขาวมาจากแหล่งหินทรายโบราณ ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งของหินทรายชั้นดีสีต่าง ๆ เช่น สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว และสีชมพู หินเหล่านี้พบมากในพื้นที่เชิงเขาใหญ่ มีคุณสมบัติเหนียวมีความแข็งน้อย จึงสามารถสลักขึ้นรูปงานศิลปะโบราณได้กลมกลึง อ่อนช้อยงดงาม ง่ายต่อการขึ้นชิ้นงานหินแกะสลัก ได้รับความนิยมกว่างานหินแกรนิต ที่มักใช้ในงานแกะสลักที่ต้องการเน้นความเงางามแข็งแรงของเนื้อหิน
เนื่องจากชิ้นงานต้นแบบมีลวดลายที่ละเอียดและอ่อนช้อยมาก ผู้สร้างสรรค์จึงได้คิดค้นเทคนิควิธีในการแกะสลักและคิดประดิษฐ์อุปกรณ์แกะสลักขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถสกัดหินให้เป็นร่องลึกคมชัดตรงตามต้นแบบโดยไม่หักบิ่น และมีความสวยงามอ่อนช้อย
เทคนิคที่ใช้ : การแกะสลักหินนูนสูงด้วยมือ ใช้หัวเหล็กสกัดที่ทำขึ้นให้ยาวเป็นพิเศษ เพื่อเซาะสกัดหินให้ได้ลึกมากขึ้น
กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน(โดยละเอียด) :