พระพิฆเนศ เทพแห่งศิลปวิทยา เป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และเป็นบุตรแห่งพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี รูปปั้นพระพิฆเนศมีลักษณะทางประติมานวิทยาที่สำคัญคือ พระเศียรเป็นช้าง งาหักด้านขวาหนึ่งข้าง ปลายงวงตวัดไปด้านซ้าย และมีพระกรตั้งแต่ 2 กรหรือ 4 กร ซึ่งถือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพระองค์ ได้แก่ ผลจัมพู (ผลมะนาว) หัวผักกาด, เหล็กแหลมสำหรับจาร, หนังสือ, ภาชนะใส่น้ำ, และขนมโมทกะ เป็นต้น อีกทั้งพระองค์เป็นเทพปฐมบูชาในศาสนาฮินดู และเป็นที่เคารพสักการะของผู้ที่ทำงานด้านศิลปะทุกแขนง
การสร้างสรรค์ผลงานการแกะสลักหินทรายของ นายกุณฑฬ โสวาปี เป็นการสืบทอดทักษะฝีมือเชิงจากจากบิดาคือ ครูสุนทร โสวาปี ครูศิลป์ของแผ่นดินปี 2559 หนึ่งในตำนานช่างแกะสลักหินของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้หลงใหลในงานแกะสลักหินทรายจนสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีลักษณะใกล้เคียงกับรูปแบบการแกะสลักหินทรายที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักเขมรโบราณ
ประสบการณ์ทักษะเฉพาะตัวที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นทักษะความเชี่ยวชาญในการกำหนดขนาดและสัดส่วนของหินทรายแต่ละชิ้นให้ได้รับการแกะสลักออกมาใกล้เคียงกับรูปแบบชิ้นงานโบราณ ทั้งนี้หินที่นำมาใช้แกะสลักต้องเป็นหินเนื้อละเอียด เนื้อแน่น ไม่เป็นชั้น ๆ เมื่อสกัดจะได้ไม่กรอบหรือแตกหักง่าย ภายในเนื้อหินต้องไม่มีหินฝากซึ่งเป็นหินเนื้อไม่ดี (เนื้อหินแข็งเหมือนหินแกรนิตหรืออาจมีเนื้อดินปนอยู่ในหิน) ทำให้อาจเกิดความเสียหายต่อชิ้นงานได้ นอกจากนั้นในการตัดหิน นายกุณฑฬได้ยึดหลักการเดียวกับครูสุนทร คือ การตัดหินต้องกำหนดขนาดและกำหนดสัดส่วนให้ถูกต้อง การตัดส่วนเกินของหินที่ไม่ใช้ออกต้องตัดเป็นเส้นตรง ไม่เช่นนั้นจะทำให้เสียเนื้อหิน และทำให้สัดส่วนชิ้นงานผิดได้
ในการสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้น นายกุณฑฬ ไม่เพียงใช้ทักษะที่เรียนรู้มาจากบิดาเท่านั้น แต่ยังศึกษารูปแบบการแกะสลักหินตามแบบขอมโบราณทั้งงานรูปเคารพ องค์ประกอบสถาปัตยกรรม และงานโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อให้ผลงานที่สร้างสรรค์ใหม่คล้ายถึงกับลักษณะชิ้นงานตามแบบโบราณมากที่สุด นอกจากนั้นนายกุณฬฑลยังคงใช้เครื่องมือการแกะสลักหินแบบโบราณ และมีการเลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลายตามลักษณะและขนาดของชิ้นงานเพื่อสร้างสรรค์เป็นศิลปะการแกะสลักหินทรายที่งดงาม