ผ้าซิ่นตีนจกไทยวนสระบุรีลายเชียงแสนขออึ่ง

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

ผ้าซิ่นตีนจกไทยวนสระบุรีลายเชียงแสนขออึ่ง ตัวซิ่น ทอด้วยเทคนิคจกด้วยเส้นไหมย้อมสีธรรมชาติเป็นลายก้ามปูสามแถว ตีนซิ่นทอจกเป็นลวดลายเชียงแสนขออึ่ง โครงสร้างเป็นซิ่นแบบไทยวน มีเอวซิ่นหัวซิ่น และลวดลายหางสะเปาที่ตีนซิ่น ตามเอกลักษณ์ซิ่นไทยวนที่งดงาม เส้นยืนทอจากเส้นฝ้ายย้อมสีเคมี เส้นไหมสำหรับจกย้อมด้วยสีธรรมชาติ ได้แก่ สีแดงจากครั่ง สีเหลืองจากดอกบวบ และสีน้ำเงินจากคราม

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
กลุ่มวัฒนธรรม :
ไทยวน
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
กว้าง 1.8 เมตร สูง 1 เมตร
วัสดุ :
เส้นฝ้าย และเส้นไหมย้อมสีธรรมชาติ
อายุ/ปีที่ผลิต :
2564
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ :  การทอส่วนหัวซิ่นด้วยเทคนิคการทอขัดธรรมดา ส่วนตัวซิ่นทอด้วยเทคนิคจกสลับทอขัดธรรมดา ส่วนตีนซิ่นทอด้วยเทคนิคจก

กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (โดยละเอียด) :

  1. เตรียมเส้นฝ้าย ที่ผ่านการเปียฝ้ายสำหรับนำมาย้อมสี และเลือกใช้สีย้อมตามการออกแบบ และลวดลายที่กำหนดเพื่อนำมาทำเป็นเส้นยืน
  2. ให้นำกลุ่มเส้นฝ้ายสำหรับทำเส้นยืนมาใส่ใน กวัก หรือ กวักฝ้าย แล้ว ค้น คือ นำด้ายมาเรียงยืนตามความกว้างยาวที่ต้องการ เพื่อต่อด้ายเครือหูกให้ติดกับด้ายฟืมซึ่งมีลักษณะเป็นฟันซี่ ๆ คล้ายหวี สำหรับสอดด้ายและไหม ใช้กระทบด้ายและไหมประสานกัน เรียกว่า สืบหูก จากนั้นนำไปเข้า กี่ หรือเครื่องสำหรับทอ พร้อมที่จะทอผ้าในขั้นตอนถัดไป
  3. จากนั้นนำเส้นฝ้ายมากรอหลอด เรียกว่า กรอหลอดด้าย อุปกรณ์กรอก็คือ หลา นำไปใส่ในกระสวยพุ่งขวางไปมาตามฟืม โดยใช้เทคนิคการทอขัดธรรมดาบริเวณหัวซิ่น
  4. ตัวซิ่นและตีนซิ่น ทอด้วยเทคนิคจกโดยใช้ขนแม่นหรือไม้ปลายแหลม จกลวดลายด้วยการงัดเส้นด้ายยืนขึ้นตามลายที่ต้องการจก จากนั้นสอดเส้นด้าย ซึ่งเป็นเส้นไหมย้อมสีธรรมชาติที่ใช้จกลายมุดลงไป แล้วจึงใช้ขนเม่นควักด้ายจกกลับขึ้นมา จนเกิดเป็นลวดลายตามขวาง ซึ่งการจกด้วยขนเม่นของชาวไทยวนนี้เป็นการจกสด ไม่มีการเก็บลายไว้ก่อน ดังนั้นช่างทอนอกจากต้องมีความชำนาญในการจก แล้วยังต้องมีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ลวดลายต่าง ๆ เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
ข้อมูลแหล่งที่มา