ผ้าคลุมไหล่แพรววา 11 ลาย – สีเหลือง

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

ลวดลาย ผ้าคลุมไหล่แพรววา ชิ้นนี้ ประกอบด้วยจำนวนลาย 11 ลาย ประกอบด้วย ลายนาคแขนสร้อยอุ้มลายนาคหัวหวี  ลายเชิงเทียนอุ้มนาคหัวหวี ลายนาคคอคด ลายพันมหาใบบุ่น อุ้มขอดอไม้ ลายท้องแพรวา นาคสิบสองแขน ลายผีเสื้ออุ้มดอกจันกิ่ง ลายดอกแก้วใบบุ่น อุ้มลายนาคหัวดาว ลายนาคหัวสร้อย อุ้มลายหัวซุม ลายใบบุ่นกาบแบด อุ้มช่อฟ้าใบบุ่น ลายนาคสี่แขน อุ้มดอกขบวน ส่วนเชิงของผ้า เป็นลายช่อดอกไม้

ความพิเศษของ  “ผ้าคลุมไหล่แพรวา” ผืนนี้ประกอบด้วยลวดลายในผืนผ้า 11 ลายอยู่ในผืนเดียวกัน และย้อมด้วยสีสีธรรมชาติ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
ความกว้าง 70 เซนติเมตร ความยาว 232 เซนติเมตร
วัสดุ :
เส้นไหม สีย้อมจากวัสดุธรรมชาติ
อายุ/ปีที่ผลิต :
2561
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : ใช้เทคนิคการเกาะ และเทคนิคจก ตามรูปแบบผ้าไหมแพรวา

ขั้นตอนในการทอผ้าแพรวา

  1. การเตรียมไหม ไหมที่จะนำมาทอผ้าแพรวานั้นจะต้องเรียบสวย เวลาทอจะได้ไม่กระตุก ครูเตรียมไหมโดยการนำไหมไปฟอกด่าง ทำความสะอาดไหมให้นิ่ม
  2. การฟอกและย้อมสี ต้มนำให้เดือด นำสีที่ต้องการย้อมมาใส่ โดยใช้สี 21 กรัม ต่อไหม 5 ปอย ไหม 1 ปอยมีน้ำหนัก 300 กรัม ใส่น้ำพอท่วมเส้นไหม ต้มประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมาล้างน้ำแล้วนำไปตากให้แห้ง
  3. การกวักเข้าอัก นำไหมที่ย้อมสีเสร็จแล้วมาใส่กง เพื่อกรอใส่ในอักหรือกวัก
  4. การค้นเครือหูก การเตรียมเส้นยืน นำไหมมาคัน โดยมีหลักการนับคือ
    2  รอบ  =  4  เส้น
    4  เส้น   =  1  ความ
    10 ความ =  1  หลบ (1 หลบ  = 40 เส้น)
    8 หลบ  ทอ สไบ 1 ผืน
    34-35 หลบ ทอผ้าซิ่นได้  1 ผืน
    หลบ คือ หน้ากว้าง (การนับหลบ ต้องนั่งฝั่งเดียว คือได้ 4 เล่ม ถ้านับ 2 ฝั่งจะได้ 8 เส้น) หน่วยความยาวใช้เป็นเมตร หากต้องการเพิ่มความยาวต้องเริ่มค้นเครือหูกใหม่อีกครั้ง แล้วนับจำนวนหลบเท่าเดิม จากนั้นนำไหมที่ค้นใหม่มาผูกเข้ากับไหมเดิมความยาวของผ้าก็จะเพิ่มขึ้น
  5. การผูกเข้าฝืม คือการนำเส้นยืนเข้าฝืมโดยนำเส้นไหมที่เตรียมไว้มาต่อกับไหมที่อยู่ที่ซี่ฟืมทีละเส้นจนหมดเส้นยืน
  6. การเตรียมไหมเส้นพุ่ง หรือการกรอไหมมาเก็บในหลอดโดยใช้ใน แล้วจึงนำหลอดไปใส่กระสวยเพื่อใช้เป็นไหมตัวพุ่ง
  7. ขั้นตอนการทอเกาะ หรือ เก็บขิด คือ เทคนิคการทำลวดลายบนผ้าโดยการใช้นิ้วก้อย ขิดไหมให้เป็นไปตามลายที่ต้องการเกาะไปจนสุด แล้วเหยียบตะกอฟืมสอดกระสวย จากนั้นจึงกระตุกผ้าให้แน่น ไม้หนึ่งเกาะ 2 เที่ยว เพื่อให้ลายนู้นเด่น
    การทอผ้าแพรวานั้น ลายที่สวยจะอยู่ด้านล่างกี่ ไม่เหมือนผ้ามัดหมี่หรือผ้าอื่น ๆ ลายที่สวยจะอยู่ด้านบนกี่เมื่อเกาะครบ 2 เที่ยว แล้วจึงนำไม้เผ่า (ไม้ยก) มาสอดจนสุดหน้าฟืมเมื่อยกลาย ขิดต่อไป ให้เปลี่ยนไม้ลายจากด้านบนลงมาไว้ด้านล่าง ทำไปเรื่อย ๆ จนไม้ลายด้านบนหมด ลงมาอยู่ที่ด้านล่างแล้วจึงนำลายอื่นๆ มาทอต่อไป ซึ่งลักษณะการทำตะกอลายนี้ คือสิ่งที่ครูคำสอนประยุกต์ขึ้นด้วยตนเองทำให้ทอผ้าได้ง่ายและเร็วขึ้น สามารถนำไม้ลายมาทำลวดลายเดิมซ้ำได้ โดยไม้ต้องนับเส้นไหมเพื่อขิดใหม่ทุกครั้ง
ข้อมูลแหล่งที่มา