การแกะหนัง ฉลุหนัง และการลงสี โดยมีรายละเอียดแต่ละขั้นตอนประกอบดังนี้

1. การเลือกหนัง : คือการเลือกหนังสัตว์ให้เหมาะสมกับรูปลักษณะ และรูปแบบการใช้งาน โดยตามความเชื่อแต่เดิมนั้น รูปครู รูปพระอิศวร และรูปฤาษี โดยมีความเชื่อว่าหนังชนิดนี้มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นความเชื่อด้านเหนือสิ่งธรรมชาติ ในเรื่องของภูตผีปีศาจอยู่ ช่างแกะหนังในจังหวัดพัทลุงทุกคนเคารพและนับถือความเชื่อด้านสิ่งเหนือธรรมชาติที่สิงสถิตอยู่ที่ตัวรูปหนังและจะบูชากราบไหว้ และถือว่าตัวรูปหนังดังกล่าวนำความเจริญ โชคลาภ ความดีความงามมาสู่แก่ช่างแกะหนังทุก ๆ คน
2. การเตรียมหนัง : เมื่อได้หนังมาจะนำไปขึงให้ตึง เลาะพังผืดออกให้หมด จากนั้นนำไปฝังทรายในลำคลองประมาณ 2 คืน โดยสังเกตและใช้เล็บจิกดูว่าหนังเริ่มเปื่อย แล้วจึงนำไปขูดขนออก จากนั้นนำไปทำความสะอาดด้วยน้ำแล้วนำไปตากลมในที่ร่ม
3. การฟอกหนัง : ภูมิปัญญาดั้งเดิมในอดีต การฟอกหนังจะนำหนังที่ขูดหนังและนำไปตากลมแล้วไปแช่ในน้ำต้มผลส้มแขก หรือผลไม้รสเปรี้ยว ประมาณ 1-2 คืน เพื่อให้กรดจากผลไม้ตามธรรมชาติซึมเข้าไปในหนัง จากนั้นจึงนำมาล้างและขึงให้แห้งโดยนำไปตากลมอีกครั้ง ปัจจุบัน การฟอกหนังนิยมใช้น้ำส้มสายชูในการฟอก ซึ่งการฟอกหนังนี้จะช่วยให้หนังที่ได้ไม่เปื่อย ไม่พอง มีความคงทนมากยิ่งขึ้น เพื่อหนังตากลมแห้งสนิทแล้วสามารถเก็บรักษาไว้ใช้ได้นานข้ามปี โดยก่อนนำหนังมาแกะเป็นตัวหนังตะลุง จะนำหนังไปแช่น้ำสะอาดเพื่อให้หนังก่อนตัวลง ช่วยให้แกะได้ง่าย แล้วจึงนำไปขึงให้ตึงก่อนนำมาแกะตามขั้นตอนของช่างแต่ละคน
4. การวาดลาย :  สามารถใช้แบบหนังที่มีการวาดหรือแกะเอาไว้แล้วมาทับลงบนแผ่นหนังที่ต้องการวาด จากนั้นใช้เหล็กเจียร(เหล็กเขียน) วาดขึ้นรูปตามต้นแบบ หรือหากช่างมีความชำนาญอาจใช้เหล็กเจียรวาดลายลงบนตัวหนัง ซึ่งสามารถลบออกได้ด้วยน้ำ
5. แกะลายและตอกลาย : ใช้เหล็กตอกลาย (ตุ๊ดตู่) ตอกลงไปบนหนังที่เตรียมไว้ ตอกเดินลายให้ได้รูปตามต้องการ การตอกจะตอกด้วยค้อนบนเคียงไม้เนื้อแข็ง เช่นไม้ลูกหยี  เพราะเมื่อตอกแล้วเนื้อไม้จะไม่ยุ่ย ไม่เป็นขุยและเครื่องมือตอกไม่เสียหาย
6. การลงสี : หนังตะลุงในอดีตจะใช้ก้านจากหรือหวายทุบปลายให้แบน นำมาแทนพู่กัน เนื่องจากหวายหรือไผ่สามารถขยี้ให้สีถึงเพื่อซึมเข้าหนังได้
7. การผูกยึดตัวหนัง : ต้องใช้ไม้ไผ่หรือไม่ทังเป็นไม้สำหรับผูกใช้เชิดเรียกว่า “ไม้ชี้ ไม้ตับ” นำมาผ่าเหลาแยกออกจากกันก่อนนำตัวหนังตะลุงเสียบเข้าไปในร่องระหว่างกลางแล้วร้อยด้วยด้าย โดยไม้ไผ่ต้องไม่แก่หรืออ่อนเกินไป เพื่อไม่ให้หนังเด้งตัวกลับเวลาเชิด

• หนังตะลุงรูปฤๅษี ทำจากหนังเสือเป็นรูปคนแก่ สวมมงกุฎ  มีหนวดเครายาว มือถือไม้เท้าข้างหนึ่ง อีกข้างถือตาลปัตร สะพายย่าม มีเชือกเชิดให้ปากขยับได้ รูปฤๅษีหนังเสือนี้จะใช้ในงานพิธีแก้บนเท่านั้น
• หนังตะลุงฤๅษีหนังเสือรูปนี้ ครูกิจ  คชรัตน์  ได้ทำขึ้นเมื่อปี 2549 โดยมีชาวมาเลเซีย ได้นำหนังเสือมาถวายแก่พระสมานคุณากร เจ้าอาวาสวัดโคกสามนคุณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในสมัยนั้น จึงได้มอบให้ครูกิจ คชรัตน์นำมาทำเป็นรูปฤๅษี เพราะมีความเชื่อว่าผู้บำเพ็ญตบะจะนุ่งห่มหนังเสือ จนมีคำกล่าวที่ว่า รูปตลกทำหนังหมี รูปฤๅษีทำหนังเสือ

ฤๅษีใช้เป็นตัวออกโรงหนังตะลุงตัวแรกของการแสดง เรียกตอนนี้ว่าฤๅษีท่องโรง เพื่อบูชาครูทั้งหลายและเพื่อระลึกถึงพระฤๅษีวาลมิกิ ผู้ประพันธ์เรื่องรามายณะ (รามเกียรติ์)จากประเทศอินเดีย ซึ่งในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างก็ได้รับอิทธิพลจากเรื่องรามเกียรติ์นี้และได้นำเอาหลายตอนในเรื่องมาทำการแสดงหนังตะลุง