“โถทรงโกศ” เป็นภาชนะโถทรงแตงที่มีฝาปิด โดยจุกฝาด้านบนเป็นจุกบัวตูมมีฐานรองสองชั้น ใช้สำหรับบรรจุอัฐิ พื้นสีหลักเป็นสีดำ บริเวณตัวโถ เขียนลายหลักด้วย “ลายเทพนม” ในช่องกระจกวงรี สลับกับ “ลายดอกประจำยาม” สีขาว ตกแต่งด้วยลายก้านขดสีแดงแซมดอกไม้สีแดง คั่นด้วยลายลูกคั่นสองชั้น คือ ลายไข่ปลาพื้นแดง และลายประจำยามก้านขดพื้นเหลือง บริเวณฝาตกแต่งด้วยลายดอกพื้นเขียว ประดับลายกระจังและลายก้านขด และจุกฝาสีเหลืองตกแต่งด้วยกลีบดอกสีแดง ฐานโถตกแต่งด้วยลายลูกคั่น คือ ลายใบเทศสลับไข่ปลาพื้นแดง
เทคนิคที่ใช้: ใช้การเขียนสีบนเคลือบ
ขั้นตอนการสร้างสรรค์
1. การขึ้นรูปทรง : นำดินสำหรับปั้นเครื่องขาวประเภทเนื้อพอร์สเลน ขึ้นรูปเป็นโถทรงโกศ ซึ่งเป็นภาชนะสีขาวที่เกิดจากการผสมของดินขาว ดินดำ หินฟันม้า และหินทรายแก้ว โดยเริ่มต้นการเผาดิบด้วยอุณหภูมิประมาณ 780 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงชุบน้ำเคลือบและเผาด้วยอุณหภูมิประมาณ 1,250-1,285 องศาเซสเซียส จัดเป็นพอร์สเลนชนิดไฟต่ำ
2. การเขียนลาย : หลังได้ที่ได้ภาชนะเครื่องขาวแล้ว นำมาเริ่มต้นการแบ่งสัดส่วนลายโดยใช้สีทองมาวนขอบภาชนะบนแป้นหมุน เรียกว่า “การวนทอง” แล้วร่างลวดลายด้วยปากกาลงเส้นบาง ๆ ขั้นแรก สำหรับผู้ที่ยังไม่ชำนาญในการเขียนลาย โดยเป็นการผูกลวดลายช่องกระจกกลีบบัวแบบจีน แล้วจึงลงลวดลายสีบนเคลือบด้วยพู่กันปลายแหลมทับลงไปบนช่องว่างตามลวดลายที่ร่างไว้
3. การเผา : หลังจากลงสีและลวดลายเรียบร้อย ให้นำเข้าเตาเผาไฟฟ้าอีกครั้งหนึ่งด้วยอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส เพื่อทำให้สีติดทนบนเครื่องเบญจรงค์ เมื่อเสร็จสิ้นการเผาแล้วให้ทิ้งไว้ในเตาเผาจนกว่าอุณหภูมิจะเย็นลง จึงสามารถนำเครื่องเบญจรงค์ออกมาจากเตาแล้วตั้งทิ้งไว้ภายนอกจนกว่าอุณหภูมิจะเป็นปกติ