เทคนิคที่ใช้
    • สร้อยคอ : ใช้วิธีการถักลายกลม 6 เสา คั่นผ่าหวาย และลวดเกลียว
    • ดอกบัว : ฐานดอกใช้วิธีการดัด การกรีดลาย ส่วนดอกใช้วิธีการตัดลวดเกลียว ลวดสปริง และเป่าไข่ปลา
ขั้นตอนการสร้างสรรค์
    1. ร่างออกแบบลวดลายเครื่องประดับตามที่ต้องการ
    2. เตรียมเม็ดโลหะเงินแท้เพื่อหลอมในเบ้าหลอมด้วยความร้อนสูง
    3. นำเงินที่ได้จากการหลอมมารีดให้เป็นแผ่นเพื่อดึงเส้นเงินตามความยาวที่ต้องการ
    4. จากนั้นนำเส้นเงินมาดัดเป็นเกลียว เป่าไข่ปลา และฉลุลายตามที่ต้องการ แล้วจึงนำไปเชื่อมประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ให้ได้เป็นรูปทรงดอกบัวสัตตบงกช
    5. หลังจากเสร็จสิ้นการเชื่อมประกอบแล้ว ให้นำไปขัดแต่งเพื่อลบเหลี่ยมคมและนำไปชุบทองให้สวยงาม

•  การทำลวดลายของเครื่องประดับไทยส่วนใหญ่จะดัดแปลงมาจากธรรมชาติที่อยู่รอบตัว และ ดอกบัว นับเป็นดอกไม้ที่นิยมนำมาใช้ออกแบบเป็นเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาด ความสงบ ความสง่างาม  โดยเฉพาะ ดอกบัวสัตตบงกช ซึ่งนำมาใช้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดอกบัวสัตตบงกชเป็นชื่อสายพันธุ์ของดอกบัวหลวงชนิดหนึ่ง และเป็นชื่อเรียกทองรูปพรรณที่มีลวดลายเลียนแบบดอกบัวสัตตบงกช ในหมู่ช่างทองเรียกว่า “กระดุม” นิยมนำมาทำเป็นกระดุมเสื้อราชประแตน ซึ่งเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นสร้อยข้อมือและสร้อยคอ

•  ดอกบัว เป็นดอกไม้ที่ชาวพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคย นิยมใช้ในการถวายบูชาพระ แทนสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์และคุณงามความดี ในทางพุทธศาสนา ดอกบัวมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องทั้งในพุทธประวัติเมื่อประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน รวมถึงหลักธรรมคำสอนซึ่งปรากฏในการอุปมาปัญญาของผู้คนในการบรรลุธรรมเปรียบได้กับ “บัวสี่เหล่า”

•  กรุช่าง ทองโบราณ. 2017. “สัตตบงกช”. Facebook, December 11, 2017. https://www.facebook.com/145831452154830/posts/1773048536099772/ (สืบค้นเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2564).