ประติมากรรมศิลาดลรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม

  • ประติมากรรมศิลาดลรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จำลองมาจากพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แห่งสวนโมกข์ สะท้อนฝีมือชั้นครูของผู้สร้างสรรค์ โดยชิ้นงานเกิดจากการปั้นมือในแต่ละส่วน เก็บรายละเอียดชิ้นงานด้วยการเซาะร่องเนื้อดินแล้วนำมาประกอบกันก่อนนำไปเผา
  • พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ในคติพระพุทธศาสนามหายานและวัชรยาน เป็นสัญลักษณ์และบุคลาธิษฐานแห่งความเมตตา พระสูตรมหายานกล่าวว่าพระองค์เกิดจากความเมตตาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอดีต ด้วยความเมตตาที่เป็นส่วนหนึ่งของพระองค์จึงทำให้ทรงช่วยเหลือสรรพสัตว์จนกว่าจะเข้าถึงฝั่งพระนิพพานทั้งหมด แล้วพระองค์จึงจะยอมตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นผู้ปิดประตูแห่งสังสารวัฏ
ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องดิน
ผู้สร้างสรรค์ :
วัสดุ :
ดินเหนียวสีดำ (Ball Clay) เนื้อดินปั้นชนิดสโตนแวร์
อายุ/ปีที่ผลิต :
2550
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : การขึ้นรูปด้วยวิธีการใช้น้ำสลิป (น้ำดิน) และการประดับลาย

กรรมวิธีการสร้างสรรค์

  1. เตรียมดินตามสูตรเพื่อให้มีความเหนียวในประมาณที่พอเหมาะสำหรับการขึ้นรูปด้วยวิธีการใช้น้ำสลิป (น้ำดิน) และการขื้นรูปด้วยการปั้นมือ
  2. ขึ้นรูปด้วยวิธีการใช้น้ำสลิป (น้ำดิน) ในการเทหล่อจากต้นแบบแม่พิมพ์ โดยนำดินมาละลายให้เป็นน้ำดินเหลวๆ เทใส่แบบพิมพ์หรือเบ้า กำหนดเนื้อดินของภาชนะหนาหรือบางอยู่ที่การควบคุมระยะเวลาที่น้ำดินอยู่ในแบบพิมพ์หรือเบ้า ถ้าใช้เวลามากเนื้อดินผลิตภัณฑ์ก็จะหนา ถ้าใช้เวลาน้อยเนื้อผลิตภัณฑ์ก็จะบาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของปูนพลาสเตอร์ที่ใช้ทำแบบพิมพ์หรือเบ้าด้วยว่าดูดซึมน้ำได้ดีเพียงใด
  3. เมื่อชิ้นงานหมาดประมาณ 50% นำชิ้นงานมาตกแต่งด้วยการแกะลาย เซาะร่อง ประกอบลายเครื่องประดับ และเก็บรายละเอียดชิ้นงาน
  4. ใช้ฟองน้ำชุบน้ำพอหมาด เช็ดเก็บรายละเอียด และตรวจดูความเรียบร้อยของชิ้นงานอีกครั้ง
  5. นำชิ้นงานที่เป็นดินดิบแห้งสนิทเข้าเตาเผาเพื่อเผาครั้งที่ 1 หรือเรียกว่าการเผาดิบ (Biscuit Firing) ที่อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส โดยให้เกิดการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ ใช้เวลาเผาประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง แล้วทิ้งไว้ให้เย็นตัวตามธรรมชาติอีกประมาณ 12 ชั่วโมง
  6. นำชิ้นงานออกจากเตามาทำความสะอาดด้วยฟองน้ำชุบหมาดๆ เพื่อเช็ดฝุ่นผงเล็กที่เกาะผิวชิ้นงานออกให้หมด
  7. นำชิ้นงานมาสร้างสรรค์ลวดลายตามรายละเอียดชิ้นงาน
  8. นำชิ้นงานที่เขียนสีลวดลายแล้วมาชุบน้ำเคลือบศิลาดลที่ผสมเตรียมไว้  ซึ่งแต่เดิมน้ำเคลือบสีเขียวเกิดจากการนำไม้รกฟ้า และไม้มะก่อ มาเผาเอาขี้เถ้า และดินหน้านาแต่ในปัจจุบันได้พัฒนามาใช้หินปูน หินเขี้ยวหนุมาน แร่เฟสสปาร์ สนิมเหล็ก และดินเหนียวแทน
  9. นำชิ้นงานไปเผารอบที่ 2 โดยเผาที่อุณหภูมิ 1,260 – 1,280 องศาสเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง การเผาในรอบนี้ใช้การเผาแบบลดออกซิเจน (Reduction Firing) แล้วปล่อยไว้ให้เย็นประมาณ 12 – 15 ชั่วโมง เพื่อให้ชิ้นงานเกิดสีเขียวแตกลายงา หากชิ้นงานมีขนาดใหญ่มากๆ เช่น โอ่งประดับ หรือรูปปั้นต่างๆ อาจต้องรอให้ชิ้นงานมีอุณหภูมิลดลงประมาณ 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในเตากระทันหัน
  10. ตกแต่งชิ้นงานให้เรียบร้อย


ข้อมูลแหล่งที่มา