คุณป้อม อัครเดช เจ้าของพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณสบันงาเล่าว่า คนน่านมีผ้าซิ่นที่นุ่งกันทั่วไปอยู่สองประเภท หนึ่งคือซิ่นม่าน สองคือซิ่นปล้อง เป็นผ้าซิ่นทอจากไหมผสมฝ้าย หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นนำมาจกลวดลายด้วยดิ้นโลหะ ซึ่งคุณป้อมเล่าว่านำเข้ามาจากฝรั่งเศส เนื่องจากน่านมีพื้นที่ติดประเทศลาว ซึ่งสมัยนั้นถูกฝรั่งเศสยึดครอง ลวดลายบนผ้าซิ่นมีเพียงบริเวณตัวซิ่นเท่านั้น ซึ่งมีลายกรวยเชิงปิดท้ายตัวซิ่น
สาเหตุที่เรียกกันว่าซิ่นม่านนั้น สืบพ้องมาจากการที่คนไทยวนเรียกคนไทใหญ่ หรือคนเมียนมาว่า ‘ม่าน’ ซิ่นม่านจึงเป็นเทคนิคการถักทอที่นำผ้าซิ่นของเมียนมามาปรับประยุกต์ ส่วนใหญ่มีหลากสี เน้นปักดิ้นโลหะสลับฝ้ายหรือไหมสีต่าง ๆ