ผ้าซิ่นคำเคิบเมืองน่าน ผืนที่1

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

หัวซิ่นมีสองชั้นตามลักษณะผ้าซิ่นโบราณ ตัวซิ่นเป็นซิ่นจกเต็มผืน ส่วนตีนซิ่นเป็นซิ่นจก
ผ้าซิ่นคำเคิบเป็นผ้าซิ่นที่ใช้กับเจ้านายในราชสำนักจนถึงชั้นสูงและผู้มีฐานะแห่งเมืองน่าน รูปแบบผ้าซิ่นเป็นไปตามแบบฉบับของชาวไทยวนล้านนา คือ ตัวซิ่นลายขวางต่อเชิงด้วยตีนจก โดยตัวซิ่นและตีนจกใช้เทคนิคการทอที่ผสมผสานกันระหว่างการจก การขิด และการมัดก่านเข้าด้วยกัน ส่วนวัสดุที่นำมาใช้นั้นมีทั้งไหมและเส้นโลหะเงิน-ทอง  ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากราชสำนักล้านช้าง  ผ้าซิ่นชนิดนี้จึงมีความงดงามและหลากหลายวัฒนธรรมร่วมกันจนกลายเป็นความงดงามที่ลงตัว
ทั้งนี้จากประวัติศาสตร์ เมืองน่าน หรือ นันทบุรีศรีนครน่าน ถือเป็นนครรัฐที่สำคัญในอดีต ตั้งอยู่ในดินแดนล้านนาตะวันออก ริมแม่น้ำน่าน ซึ่งในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญซึ่งเชื่อมโยงวัฒนธรรมจากกรุงสุโขทัย ล้านนา ล้านช้าง และอาณาจักรสิบสองปันนาเข้าด้วยกัน ทำให้สิ่งทอของเมืองน่านมีความงดงาม ผสมผสานกันจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียงสืบมา

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
กลุ่มวัฒนธรรม :
น่าน (เจ้านาย)
ขนาด :
กว้าง 24 นิ้ว ยาว 44 นิ้ว
วัสดุ :
ผ้าซิ่นทอจากฝ้าย
อายุ/ปีที่ผลิต :
2462
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : เทคนิคการจก
การจก เป็นเทคนิคการทำลวดลายบนผืนผ้าด้วยวิธีการเพิ่มได้พุ่งพิเศษเข้าไปเป็นช่วง ๆ ไม่ติดต่อกันตลอดหน้ากว้างของผ้า โดยใช้ขนเม่น ไม้ หรือนิ้วมือยกหรือจกเส้นด้ายเส้นยืนขึ้น และสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปตามลวดลายและสีสันที่ผู้ทอสร้างสรรค์ขึ้น ทั้งนี้คำว่า “จก”  นั้นภาษาไทยท้องถิ่นหมายถึง การควัก ล้วง ขุด คุ้ย ซึ่งลักษณะของกระบวนการทอผ้าจก คือ จะต้องใช้การควัก ล้วง ดึง เส้นด้ายพุ่งพิเศษขึ้นลงเพื่อสร้างลวดลาย จึงสามารถออกแบบลวดลายและสีสันของผ้าจกได้ซับซ้อน และเพิ่มสีสันในลวดลายได้หลากหลาย  ผู้ทอผ้าจกในประเทศไทย นิยมทอสำหรับส่วนหรือองค์ประกอบที่เป็นส่วนสำคัญอย่างตีนซิ่น เพื่อนำมาประกอบตัวซิ่น จึงมีการเรียกผ้าซิ่นที่ทอด้วยเทคนิคจกว่า “ผ้าซิ่นตีนจก” หรือ “ผ้าตีนจก”

ข้อมูลแหล่งที่มา