ผ้าซิ่นตีนจกน้ำอ่าง ผืนที่1

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

  • หัวซิ่นมีสองชั้นตามลักษณะผ้าซิ่นโบราณ ตัวซิ่นเป็นซิ่นที่ใช้เทคนิคการยกลาย ส่วนตีนซิ่นเป็นซิ่นจก
  • ตามประวัติที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า บรรพบุรุษชาวไทยวนอพยพมาจาก “หนองอ่าง” เมืองเชียงแสน เมื่อหลายร้อยปีก่อน ชาวน้ำอ่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมเป็นของตนเอง อันแตกต่างจากชนกลุ่มต่างๆ ในอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
  • ผ้าซิ่นตีนจกน้ำอ่าง มีรูปแบบโดยรวมคล้ายคลึงกับผ้าซิ่นของลับแล จะแตกต่างกันที่สีสันจะใช้โทนออกเขียวมากกว่า และตัวซินจะมีการทอด้วยเทคนิคพิเศษ หรือการขิด หรือที่ชนพื้นถิ่นเรียกว่า “ง้าง” โดยใช้เส้นไหมหรือไหมพรมซึ่งนิยมใช้กันในยุคหลังทอเป็นลวดลายสวยงามตลอดทั้งผืน ทำให้ผ้าซิ่นตีนจกน้ำอ่างมีลายที่ละเอียดปราณีต แวววาวด้วยเส้นไหมสีเขียวตองอันงดงามทั้งตัวซิ่นและตีนจก
ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
กลุ่มวัฒนธรรม :
ไทยวน
ขนาด :
กว้าง 25 นิ้ว ยาว 37 นิ้ว
วัสดุ :
ผ้าซิ่นตีนจกทอจากฝ้าย
อายุ/ปีที่ผลิต :
2482
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : เทคนิคการจก
การจก เป็นเทคนิคการทำลวดลายบนผืนผ้าด้วยวิธีการเพิ่มได้พุ่งพิเศษเข้าไปเป็นช่วง ๆ ไม่ติดต่อกันตลอดหน้ากว้างของผ้า โดยใช้ขนเม่น ไม้ หรือนิ้วมือยกหรือจกเส้นด้ายเส้นยืนขึ้น และสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปตามลวดลายและสีสันที่ผู้ทอสร้างสรรค์ขึ้น ทั้งนี้คำว่า “จก”  นั้นภาษาไทยท้องถิ่นหมายถึง การควัก ล้วง ขุด คุ้ย ซึ่งลักษณะของกระบวนการทอผ้าจก คือ จะต้องใช้การควัก ล้วง ดึง เส้นด้ายพุ่งพิเศษขึ้นลงเพื่อสร้างลวดลาย จึงสามารถออกแบบลวดลายและสีสันของผ้าจกได้ซับซ้อน และเพิ่มสีสันในลวดลายได้หลากหลาย  ผู้ทอผ้าจกในประเทศไทย นิยมทอสำหรับส่วนหรือองค์ประกอบที่เป็นส่วนสำคัญอย่างตีนซิ่น เพื่อนำมาประกอบตัวซิ่น จึงมีการเรียกผ้าซิ่นที่ทอด้วยเทคนิคจกว่า “ผ้าซิ่นตีนจก” หรือ “ผ้าตีนจก”

ข้อมูลแหล่งที่มา